Screen Shot 2557-12-28 at 1.54.30 AM
เรื่องที่ 10 ที่นักพัฒนาควรรู้ และ เข้าใจก็คือ Know Your IDE
หรือ นักพัฒนาต้องทำความรู้จัก IDE, Text Editor ที่ใช้เป็นอย่างดี

แต่แปลกนะ ที่มักพบว่านักพัฒนาส่วนใหญ่ใช้ความสามารถของ IDE เพียงเล็กน้อย

ช่วงทศวรรษที่ 1980

เครื่องมือที่ช่วยเหลือในการเขียนโปรแกรมคงไม่มีอะไรดีไปกว่า Text Editor
ซึ่งถ้าคุณโชคดีอาจจะมีความสามารถในการ hilight syntax ของภาษาโปรแกรมที่เราเขียน
หรือถ้าต้องการก็ต้องเสียเงินแพงๆ ซื้อเอา
รวมทั้งเรื่องของการจัดรูปแบบ code และเครื่องมือสำหรับการ debug

ช่วงทศวรรษที่ 1990

บริษัทต่างๆ เริ่มค้นหา และ สร้างเครื่องมืออำนวยความสะดวก
ในการเขียนโปรแกรมมากกว่า Text Editor
นั่นก็คือ IDE (Integrated Development Environment)
ซึ่ง IDE นั้นได้รวบรวมเอาความสามารถต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น

  • compiler
  • debugger
  • การจัดรูปแบบของ code
  • และเครื่องมืออื่นๆ อีกมากมาย

เมื่อ IDE นั้นมาพร้อมกับยุคของการแสดงผลแบบเมนู และ การใช้ mouse
ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะเขียน IDE ส่วนใหญ่มีเมนูต่างๆ มากมาย และใช้ mouse เป็นหลัก

ช่วงตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา

IDE นั้นได้กลายเป็นส่วนหลักของการพัฒนา software ไปแล้ว
โดยที่ IDE ส่วนใหญ่ในท้องตลาด สามารถใช้งานได้ฟรี เช่น Eclipse, IntelliJ เป็นต้น
และ IDE สมัยใหม่มีความสามารถแจ่มๆ เยอะมาก เช่น

  • การ Refactor code
  • การจัดรูปแบบ code ตามที่บริษัท และ ทีมพัฒนาต้องการ
  • สามารถกำหนด Coding standard ได้

ว่าแต่ นักพัฒนาเคยใช้หรือเปล่านะ ? หรือว่าไม่รู้ว่ามันทำได้ ?

มันแปลกดีนะ !!

นักพัฒนาในปัจจุบัน ไม่ค่อยลงทุน หรือ สละเวลา เพื่อศึกษาและเรียนรู้การใช้งาน IDE เลย
พบว่าส่วนใหญ่ มักใช้ IDE เพียงการเขียน code และ จัดรูปแบบ code เท่านั้น
ส่วนความสามารถอื่นๆ ประมาณ 90% ไม่ได้ใช้งานเลย
แปลกไหม ?

ต่างจากคนที่เริ่มเขียนโปรแกรมเก่าๆ ที่เริ่มจากการใช้ VI เป็น Text editor
ซึ่งจะต้องใช้เวลาศึกษาการใช้งาน เพื่อให้สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี
บางคนใช้เวลาเป็นปีๆ เพื่อศึกษา และ ใช้งานมัน
แต่ IDE กลับไม่เป็นอย่างนั้น ทำไมนะ ?
คุณล่ะใช้ IDE กันอย่างไร ?

ข้อแนะนำสำหรับการเรียนรู้เพื่อใช้ IDE

เริ่มจากการเรียนรู้เพื่อใช้ Keyboard shortcut ของ IDE ซะ
ไม่งั้นจะตามคนอื่นไม่ทันนะ !!
และเพื่อช่วยให้คุณสามารถใช้ IDE ได้อย่างดี และ มีประสิทธิภาพ
จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาเลื่อน mouse ไปมา
นั่นคือการเพิ่ม productivity ของเรานั่นเอง

ตัวอย่างเช่น Eclipse IDE
มี shortcut key มามาย ดังรูป

Screen Shot 2557-12-28 at 1.37.19 AM

สุดท้ายแล้ว

นักพัฒนา software ทุกคน ควรที่จะแบ่งเวลามาศึกษา IDE กันบ้างนะครับ
เพื่อให้สามารถใช้งาน IDE ได้ดีขึ้นกว่าเดิม

วันนี้คุณเคยใช้ shortcut อะไรใน IDE ของคุณบ้าง ?
วันนี้คุณเคย configuration IDE ของคุณบ้างหรือไม่ ?
ถ้าไม่หัดลองทำบ้างนะ

ถ้าคุณยังใช้ IDE เหมือน Text Editor ก็ไปใช้ Text Editor เถอะครับ !!