เคยเขียนเรื่อง Productivity ไปแล้วบ้าง
ซึ่งคำนี้มักจะใช้มากเพื่อวันประสิทธิภาพในการทำงาน
ยิ่งการพัฒนา software แล้วยิ่งต้องการ
ให้ทุกๆ คนมี productivity ที่สุดยอด
โดยที่วิธีการเพิ่ม productivity นั้นมีอยู่มากมาย
ดังนั้น จึงไม่ขอแนะนำสิ่งที่ดีๆ หรอกนะ
แต่ขอแนะนำวิธีการทำลาย productivity ของคุณดีกว่า !!
มาลองทำกันดูครับ เห็นผลชะงักจริงๆ
1. ทำให้มีสิ่งรบกวนเยอะๆ
ตัวอย่างเช่น ตอนเขียน blog นี้
ผมทั้งเปิด facebook, twitter และ email
ยังไม่พอยังเปิดพวกโปรแกรม chat ต่างๆ 2-3 ตัว
แถมยังมีมือถือวางอยู่ข้างตัวเอง
และเปิดโทรทัศน์อีก
มันทำให้ไม่ได้สนใจหรือใส่ใจไปที่การเขียน blog เลย
ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงที่จะเขียน blog นี้ไม่เสร็จอีกด้วย
ยังไม่พอนะ
ในปัจจุบันนั้นพวก browser ต่างๆ มันสามารถที่จะเปิด tab หลายๆ tab ได้
และแน่นอนว่า browser ของทุกๆ คนอุดมไปด้วย tab ต่างๆ
ผมก็เช่นเดียวกัน
คำถาม
ทำไมเราต้องเปิด tab ขึ้นมาเยอะๆ ด้วยนะ ?
พวก browser ต่างๆ มันต้องสร้าง tab ขึ้นมาอย่างมีเหตุผลสินะ
เราที่เป็นคนใช้งานก็ต้องตอบให้ได้ด้วยว่า เปิด tab เยอะๆ ทำไม
มีกี่ tab ที่คุณเปิดอ่าน ?
จะลบ tab ก็กลัวข้อมูลจะหายไป ?
ทำไมไม่ favorite ไว้นะ … เดี๋ยวลืม หรือหาไม่เจอนะสิ ?
ทำไมไม่อ่านให้จบล่ะ … ไม่มีเวลานะ ต้องไปอ่าน tab อื่นๆ ก่อน ?
เดี๋ยวค่อยกลับมาอ่าน …
ลองเปิด tab เยอะๆ ดูครับ
ยังไม่พอ อย่าลืมเปิดเสียงของโทรศัพท์มือถือด้วยนะครับ
ยิ่งพวกโปรแกรม chat ต่างๆ อย่าลืม online
หรือตัง auto-login ไว้ให้หมดนะครับ
จะได้ไม่เสียเวลา ต้องมานั่ง login กันอีก
แล้วก็อย่าลืมหูฟังดีๆ เพื่อฟังเพลงด้วยนะครับ
เชื่อได้เลยว่า productivity ของคุณได้ถูกทำลายไปอย่างแน่นอน
2. พยายามทำหลายๆ สิ่งอย่าง พร้อมๆ กัน
เรียกง่ายๆ ก็ Multi-tasking นะ
ซึ่งคุณสามารถบอกได้ว่า คุณสามารถทำงานเสร็จได้เยอะมากๆ
แต่ไม่รู้ว่า จริงๆ แล้วงานมันเสร็จจริงๆ กี่งาน
คุณสามารถเขียน code ฟังเพลง ดู MV ไปพร้อมๆ กันได้ !!
คุณสามารถเขียน email และ chat ไปพร้อมๆ กันได้ !!
คุณสามารถทำงานแบบ multi-tasking ได้ ถ้าคุณมีความตั้งใจ และ สนใจมากพอ
ยิ่งถ้าคุณใช้ shortcut key ด้วยแล้วยิ่งช่วยให้คุณ
ทำงานแบบ multi-tasking ได้เพิ่มขึ้น
เช่น alt+tab หรือ command+tab บน Mac
จะทำให้คนสลับงานไปมาได้อย่างน่าทึ่ง
ขั้นตอนการทำงานแบบ multi-tasking
- เขียน code ไปสักบรรทัด แล้วกด alt+tab
- check email แล้วกด alt+tab
- นั่งคิดว่า code ที่เขียนไปคืออะไร แล้วกด alt+tab
- มี email ใหม่เข้ามา แล้วกด alt+tab
- มี like และ comment ใหม่ใน Facebook แล้วกด alt+tab
- มี message ใหม่เข้ามาทาง Line แล้วกด alt+tab
ลองทำดูได้ครับ จะพบว่า งานคุณมี productivity ที่แย่มากๆ
ตรงตามเป้าหมายของเราเลย
3. ทำในสิ่งที่ไม่สำคัญก่อน
คำถาม
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณนั่งบนโต๊ะ เปิด notebook และทำในสิ่งที่สำคัญๆ ก่อน ?
คำตอบ
มันน่าเบื่อไงล่ะ
คุณจะ productive สุดๆ
อะไรอีกล่ะ สิ่งที่ดีๆ เยอะเลย
คำถาม
แล้วสิ่งที่จำเป็นในแต่ละวัน ที่คุณจะทำอย่างแรกล่ะ คืออะไรบ้าง
คำตอบ
ก็ check email
ดู facebook
ไป update ข่าวสารเรื่องของชาวบ้าน
ทำในเรื่องที่มันไม่น่าเบื่อก่อนสิ
สิ่งที่มันน่าเบื่อๆ เอาไว้ทีหลัง
ตัวอย่างเช่น
เชื่อไหมว่า ทุกๆ คนบนโลก Social ผิดหมดนั่นแหละ ?
ดังนั้น ถ้าเห็นว่าสิ่งใดผิด เราก็ควร comment เขากลับไปสิ
อะไรที่มันไร้สาระ หรือ สนุกสนาน ก็ share หรือแบ่งปันให้คนอื่นๆ รู้ด้วย
หลังจากนั้นค่อยกลับมาทำในสิ่งที่สำคัญต่อไป
มีคนบอกไว้ว่า
การทำงานที่ไม่สำคัญมันง่ายกว่า การทำงานที่สำคัญกว่ามาก
บางครั้ง คุณสามารถยกเลิกงานที่สำคัญนั้นไปได้เลย
ซึ่งมันหมายถึง คุณทำงานนั้นเสร็จแล้ว !!
(Ignoring problems often makes them go away)
4. หัดผลัดวันประกันพรุ่งให้ดูดีแบบมืออาชีพ
Programmer มาจากคำว่า Pro-grammer
ดังนั้นเราควรต้อง pro มากๆ ในการผลัดวันประกันพรุ่ง
ผมจะแนะนำคำพูดสวยๆให้
คำที่นักพัฒนาชอบพูดก็คือ เดี๋ยวจะกลับมาทำ (I’ll do it later)
เมื่อคุณต้องเปิด IDE เพื่อเขียน code หรือแก้ไข code
ให้ทำการสูดหายใจเข้าลึกๆ
เมื่อเห็น code ที่ไม่ดี ก็บอกว่า เดี๋ยวฉันกลับมาแก้ไขให้ดีขึ้น
ยังไง code มันก็ทำงานอยู่แล้ว
คำถาม
เราต้องทำงานอะไรเพิ่มอีกไหม ?
คำตอบ
ไม่ต้องหรอก ทำงานให้มันเสร็จๆ ไปเถอะ
แต่เมื่อถึงนาทีสุดท้ายก่อนเส้นตาย ระบบมันทำงานไม่ถูกต้อง
หรือทำงานได้ทั้งหมด เราก็บอกไปเลยว่า
มันไม่ใช่ความผิดของฉันนะ เพราะว่า ทำงานเต็มที่แล้ว !!
แต่ผมมีข้อแนะนำ เพื่อให้การผลักวันประกันพรุ่ง ได้ผลยิ่งขึ้น
- อย่าเริ่มทำงานนั้นๆ เร็วเกินไป ถ้าให้ดีรอจนกว่าจะถึง dead line หรือ last a minute นั่นเอง
- เมื่อคุณมานั่งที่โต๊ะทำงานของคุณ อย่าทำงาน แต่หางานอย่างอื่นทำ เพื่อให้คุณดูยุ่งๆ ทั้งวัน
- จงเชื่อในสัญชาตญาณของคุณ ว่าคุณทำได้
- พยายามทำงานใหญ่ๆ อย่างไปทำงานเล็กๆ หรือ แตกเป็นงานเล็กๆ เพราะว่า งานเล็กๆ มันง่ายที่จะทำให้เสร็จ มันไม่ดีต่อเราเลย
5. พยายามทำให้ทุกๆ งานมัน perfect หรือ สมบูรณ์แบบ ไร้ที่ติ
บางคนบอกว่าพวก perfectionism นั้นมันคือ จุดอ่อน
แต่สำหรับพวกเราแล้ว มันคือจุดแข็งเลยล่ะ
คุณต้องทำงานทุกสิ่งทุกอย่างให้มัน perfect ไร้ที่ติในครั้งเดียว
ถ้าอะไรที่มันไม่ perfect มันคือไม่เสร็จนะ !!
ตัวอย่างเช่น
ในการแก้ไขปัญหาหนึ่งๆ
นักพัฒนาเราต้องเขียน code ใช่ไหมล่ะ ?
เรื่องของ algorithm ที่ใช้งานต้อง perfect
เรื่องของ performance ต้องเร็วที่สุด
เรื่องของการตั้งชื่อตัวแปรต้องสื่อสารได้ชัดเจน
เรื่องของ code ต้องอ่านง่าย และ เข้าใจได้ง่าย
เราต้องเชื่อว่า code ที่มัน perfect
มันย่อมดีกว่า code ที่มันทำงานได้
เราต้องเชื่อว่า ถ้า feature มันทำงานไม่ perfect 100%
จะไม่ทำการส่งมอบ ถึงแม้จะ deadline ก็ตาม
แต่บางครั้งคุณอาจจะเบื่อกับคำว่า perfect
เพราะว่า มันต้องใช้เวลาในการทำนานมากๆ
ดังนั้น แนะนำให้คุณทำๆ ไปเถอะ ให้มันพอทำงานได้
แล้วบอกว่า ฉันจะกลับมาทำมันให้ดีขึ้นทีหลังนะ !!
เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำลาย productivity ของคุณได้แล้วครับ
ไม่เชื่อลองทำดูกันนะ ได้ผล 100% แน่นอน !!
Reference Websites
5 Ways to Destroy Your Productivity
The No. 1 Way to Kill Productivity
The 15 worst ways to kill programming productivity
