
จากบทความเรื่อง Avoid Being an “Ivory Tower” Architect: the Relationship between Architects and Their Organisation
ทำการอธิบายถึงบทบาทของ Software Architect ในองค์กร
ที่ควรหลีกเลี่ยงการเป็นนักทฤษฎีที่อยู่บนคอคอยงาช้าง !!
ซึ่งเน้นแต่คิด แต่ไม่เน้นลงมือทำ หรือ ปฏิบัติจริง ๆ
มิเช่นนั้นจะเป็นเพียงคนที่สั่ง สั่ง สั่ง กำหนดแนวทาง
โดยไม่เข้าใจข้อจำกัด ปัญหา หรือความท้าทายในการลงมือทำเลย
ซึ่งทำให้เกิดปัญหาขึ้นมามากมาย
สิ่งที่สำคัญมาก ๆ ของสายงาน Software Architect จากบทความ
เป็นดังนี้
สร้าง balance ระหว่างการดูภาพรวม กับ การลงรายละเอียด
เพื่อทำให้แน่ใจว่าแนวทางที่กำหนด หรือ ทิศทาง หรือ วิธีการ
มันนำมาใช้งานหรือลงมือทำจริงได้
ดังนั้นจำเป็นต้องรู้ต้องเห็นต้องเข้าใจภาพรวมของระบบ
และรายละเอียดต่าง ๆ
เทียบได้กับป่าและต้นไม้
ต้องรู้ภาพรวมของป่าว่าเป็นอย่างไร
และรู้ว่าต้นไม้แต่ละต้นอยู่ตรงไหน เป็นอย่างไร
การพูดคุยต้องเป็นแบบสองทาง มิใช่ทางเดียว
จำเป็นต้องรับฟัง feedback จากคนทำงาน
ว่ามีปัญหาอะไร อย่างไร
เพื่อที่จะใช้ในการปรับปรุง หรือ เปลี่ยนแปลงแนวทางที่กำหนดไว้
ให้เหมาะสมกับการทำงานจริง ๆ
รวมทั้งต้องคอยเป็นทีมสนับสนุนและ service ทีมที่ลงมือทำจริง ๆ
ทั้งเรื่องความรู้
ทั้งเรื่องของการแก้ไขปัญหา
ทั้งเรื่องของการประสานงาน
รวมทั้งกระจายความรู้ต่าง ๆ ไปยังส่วนต่าง ๆ ขององค์กร
เช่นถ้าระบบเคยมีปัญหาเรื่องหนึ่ง ๆ แล้ว
มีการแก้ไขปัญหาแล้ว
ดังนั้นควรนำความรู้เหล่านี้ไปสอน หรือ แนะนำไปยังทีมต่าง ๆ ในองค์กร
เพื่อไม่ให้เจอปัญหานั้น ๆ อีกต่อไป
ดังนั้นเรื่องของการสื่อสารของ Software Architect จึงสำคัญมาก ๆ
ยิ่งสร้างความเชื่อมั่น และ ไว้เนื้อเชื่อใจมากยิ่งขึ้น
ยิ่งทำให้ทีมต่าง ๆ อยากทำงานด้วยอย่างมาก
เป็นทีมที่ช่วยเหลือ มิใช่คอยมา review คอยมาติ คอยมาด่า อย่างเดียว
แต่พอถามหา solution กลับตอบกลับมาว่า
คุณไปหามาเองสิ !!
สวัสดี !!